UFA Slot

ขึ้นฉ่าย งานวิจัย

ถิ่นกำเนิดขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ เช่น ประเทศสวีเดน , แอลจีเรีย และประเทศอียิปต์ แต่อีกข้อมูลหนึ่งเชื่อกันว่าถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของขึ้นฉ่ายอยู่ในทวีปเอเชีย ได้แก่ ในประเทศจีน และเขตอบอุ่นในแถบเอเชียตะวันออก

สำหรับในประเทศไทยปัจจุบันที่นิยมปลูกมีอยู่กันสองชนิด คือ ชนิดต้นเล็ก ซึ่งปลูกกันมาดั้งเดิมเป็นพันธุ์พื้นเมืองซึ่งนำเข้ามาจากประเทศจีนเรียกว่าคึ่นฉ่ายจีน ส่วนอีกชนิดหนึ่งมีขนาดของต้นสูงใหญ่กว่า ก้านใบยาวแข็ง เรียกว่าคึ่นฉ่ายเทศหรือคึ่นฉ่ายฝรั่ง คาดว่าเพิ่งนำเข้ามาปลูกในประเทศไทยเมื่อไม่นานมานี้

ประโยชน์ของขึ้นฉ่ายที่นิยมกันในอดีตมาจนถึงปัจจุบัน คือ นำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนู เมนูขึ้นฉ่ายเป็นที่นิยมทำอาหารต่างๆ หรืออาจจะนำมาใช้รับประทานเป็นผักสด หรือใช้โรยหน้าอาหารประเภทยำต่างๆ ก็ได้ และนอกจากใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารแล้ว ยังสามารถนำผักขึ้นฉ่ายมาคั้นเป็นน้ำดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพได้ นอกจากนี้น้ำมันขึ้นฉ่าย สามารถนำมาใช้ในการแต่งกลิ่นเครื่องสำอาง ยาทาผิว ครีม และสบู่

ลักษณะทั่วไปขึ้นฉ่าย

ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่าขึ้นฉ่าย มีอยู่ 2 สายพันธุ์ (แต่ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์เดียวกัน) สายพันธุ์แรกก็คือ ขึ้นฉ่ายฝรั่ง ลักษณะต้นจะอวบใหญ่มาก ลำต้นมีความสูงประมาณ 40-60 เซนติเมตร ลำต้นขาวใบเหลืองอมเขียว และอีกสายพันธุ์คือ ขึ้นฉ่ายจีน 

ซึ่งจะมีขนาดของลำต้นที่เล็กกว่า มีความสูงประมาณ 30 เซนติเมตร และใบค่อนข้างแก่ ส่วนลักษณะส่วนอื่นๆจะค่อนข้างเหมือนกัน ดังนี้

ขึ้นฉ่ายจัดเป็นพืชล้มลุกอายุ 1-2 ปี มีกลิ่นหอมฉุน ลำต้นกลวงกลม ต้นสูง 30-60 ซม. (ตามสายพันธุ์) ใบเป็นรวม มีใบย่อย 2-3 คู่ ก้านใบรวมอาจยาวได้ถึง 36-45 ซม. ใบย่อยที่อยู่ชั้นล่างมีก้านใบยาวกว่าใบย่อยที่อยู่บนสุด ใบย่อยกว้าง 5 ซม.

ขอบใบแยกเป็นแฉกลึก แต่ละแฉกเป็นรูปสามเหลี่ยม ดอกมีขนาดเล็กสีขาวช่อดอกคล้ายซี่ร่ม ยอดดอกแผ่เป็นรัศมี ดอกเล็กเป็นแบบสมบูรณ์เพศ ผลมีลักษณะกลมยาวประมาณ 1.5 มม.มีสีน้ำตาล มีกลิ่นหอม 

UFA Slot

การขยายพันธุ์ขึ้นฉ่าย

ขึ้นฉ่ายสามารถขยายพันธุ์ได้โดยการใช้เมล็ดโดยมีวิธีการดังนี้ การเตรียมแปลง ทำการยกร่องแปลงหรือทำแปลงแบบธรรมดาในขนาดกว้าง 1-2 เมตร ความยาวตามความเหมาะสม  ทำการไถพรวนดิน ร่วมด้วยกับการกำจัดวัชพืช และตากดิน 5-10 วัน ขึ้นอยู่กับชนิดดิน

ทำการหว่านปุ๋ยคอก ร่วมด้วยกับผสมปุ๋ยเคมีเพียงเล็กน้อย เช่น ปุ๋ยคอกหรือมูลโค 1000 กก./ไร่ ร่วมกับปุ๋ยเคมี 30 กก./ไร่ ไถกลบดิน และตากดิน 2-3 วัน ก่อนปลูก

สำหรับวิธีการปลูก แบ่งเป็น 2 วิธี คือ การปลูกด้วยการหว่านเมล็ด ถือเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ด้วยการหว่านเมล็ดลงแปลงหลังการไถพรวนครั้งสุดท้ายในอัตราเมล็ดพันธุ์ 0.5-1 กก./ไร่ แต่ไม่ควรให้ถี่มาก  และการปลูกด้วยการหยอดหลุม ให้ระยะห่างของหลุมในแนวขวาง และแนวยาวที่ 10-15 ซม. โดยหยอดเมล็ดพันธุ์ 3-5 เมล็ด/หลุม  หลังจากการหว่านเมล็ดหรือการหยอดเมล็ดให้คราดเกลี่ยกลบดินเล็กน้อย พร้อมวางทับด้วยฟางบางๆ และรดน้ำให้ชุ่ม

บทความแนะนำ

การให้น้ำ สามารถให้น้ำตั้งแต่การหว่านเมล็ดครั้งแรกจนถึงระยะเก็บเกี่ยว วันละ 1-2 ครั้ง เช้าเย็น ส่วนการใส่ปุ๋ยอาจใช้วิธีการหว่านหรือการละลายน้ำรดก็ได้ ในอัตรา 50 กก./ไร่ โดยจะเริ่มให้ปุ๋ยเมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้วหรือประมาณ 1-2 อาทิตย์ หลังเมล็ดงอก และให้อีกครั้งก่อนการเก็บเกี่ยวประมาณ 2 อาทิตย์  คื่นฉ่ายหลังจากเมล็ดงอกจนถึงการเก็บเกี่ยวจะใช้เวลาประมาณ 40-50 วัน ซึ่งควรเก็บในช่วงเช้าตรู่หรือช่วงเย็น


อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ spencerleonard.com อัพเดตทุกสัปดาห์

UFA Slot

Releated