UFA Slot

น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ให้ประโยชน์อะไรกับร่างกาย?

จากการค้นคว้าและวิจัยของแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกมากกว่า 2,500 การทดลอง ทำให้รู้ถึงสารสำคัญที่ทำให้กระเทียมมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย

โดยในกระเทียมมีสารประกอบซัลเฟอร์อย่างน้อย 33 ชนิด รวมถึงอัลลิซิน (Allicin) และ S-allylmercaptocyctein รวมทั้งกรดอะมิโนและไกลโคไซด์กว่า 17 ชนิด

นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วยเอ็นไซม์หลากหลายชนิด และเกลือแร่ที่จำเป็นต่อร่างกายรวมถึง เซเลเนียม (Selenium) ซึ่งสารประกอบเหล่านี้สามารถช่วยปรับสมดุลให้แก่หัวใจ ลดไขมันในเลือดสูง ลดความดันโลหิตสูง และเสริมสร้างภูมิต้านทานได้

น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) กับ 3 ประโยชน์ที่ดีต่อหัวใจ และป้องกันไขมันในเลือดสูง

UFA Slot

การที่จะมีสุขภาพหัวใจที่แข็งแรงได้ต้องประกอบไปด้วยหลายปัจจัย ซึ่งปัจจัยที่สำคัญคือต้องดูแลระดับไขมันในเลือดสูงให้เป็นปกติ และควบคุมเรื่องความดันโลหิตสูงเป็นสำคัญ

  1. น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือด

ระดับไขมันคอเลสเตอรอลในเลือดที่สูงเป็นปัจจัยสำคัญของโรคหัวใจ เนื่องจากมีการสะสมของไขมันที่หลอดเลือดจนทำให้ตีบและตัน ซึ่งซัลเฟอร์และอัลซิลินที่เป็นสารประกอบในกระเทียมสามารถช่วยลดระดับไขมันคอเลสเตอรอลรวม (Total cholesterol) และไขมันคอเลสเตอรอลร้าย (LDL-cholesterol) ให้เป็นปกติ

  1. น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด

เนื่องจากระดับไขมันในเลือดสูงที่มีสาเหตุจากไขมันสะสมที่หลอดเลือดมากเกินไป ส่งผลให้ก้อนไขมันเกิดการแตกตัวจึงกระตุ้นให้เกิดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพื่อปิดก้อนไขมันที่แตกออก เป็นสาเหตุให้หลอดเลือดเกิดการอุดตัน การรับประทานกระเทียมสามารถช่วยลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด เพราะมีสารประกอบซัลเฟอร์และอัลลิซินที่ช่วยลดระดับไขมันในเลือดสูง ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกาะตัวของเกล็ดเลือดและภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน

  1. น้ำมันกระเทียม (Garlic Oil) ช่วยลดความดันโลหิตสูง 

จากการศึกษาวิจัยของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในต่างประเทศพบว่าให้ประโยชน์ในการช่วยลดความดันโลหิตตัวบน (ความดันที่เกิดขึ้นขณะหัวใจบีบตัวไล่เลือดออกจากหัวใจ) ได้ถึง 7.7 มิลิเมตรปรอท และลดความดันโลหิตตัวล่าง (ความดันของเลือดที่ค้างอยู่ในหลอดเลือด ขณะหัวใจคลายตัว) ได้ถึง 5 มิลลิเมตรปรอท

ไม่เพียงเท่านั้นยังช่วยลดความเสี่ยงโรคหัวใจและหลอดเลือด ได้ถึง 16-40% ซึ่งได้มาจากผลการวิจัยที่ทำขึ้นกับกลุ่มทดลองของผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงจำนวน 553 คน


อ่านบทความข่าวสารอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่ spencerleonard.com อัพเดตทุกสัปดาห์

Releated